มีอะไร….ในแคมป์เดวิด ? (2)

มีอะไรใน…แคมป์เดวิด ? (2)

แปลและเรียบเรียงโดย
พลตรี นิพัทธ์ ทองเล็ก
nthonglek@hotmail.com

...........ประธานาธิบดีครุสชอฟของโซเวียตมาเยี่ยมไอเซนฮาวร์ที่แคมป์เดวิดเมื่อวันศุกร์ที่ 5 กันยายน 2502 มีบันทึกว่า การพบกันครั้งนั้นเพื่อ “ตกลงใจครั้งประวัติศาสตร์” ซึ่งมิได้กล่าวถึงในรายละเอียดว่ากันว่าเป็นเรื่องอะไร แต่มีความสำคัญยิ่งถึงขนาดมีการจัดทำเหรียญที่ระลึกจารึกคำว่า “Spirit of Camp David” เพื่อแสดงถึงความสำคัญของเหตุการณ์ครั้งนั้น
..........พฤศจิกายน พ.ศ.2503 เคนเนดี้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ไอเซนฮาวร์เชิญเคนเนดีมาประสานงานก่อนส่งมอบตำแน่งที่แคมป์เดวิด ก่อนจะหมดวาระของไอเซนฮาวร์ จอร์จ ฟาวเลอร์ หัวหน้าผู้ดูแลแคมป์ ได้ตั้งชื่ออาคารที่พักในแคมป์เดวิดทุกหลังโดยใช้ชื่อต้นไม้เป็นหลัก กระท่อมของประธานาธิบดีได้ชื่อว่า “แอสเพน (Aspen)” ซึ่งยังใช้ชื่อดังกล่าวมาจนถึงทุกวันนี้

แคมป์เดวิดในสมัยเคนเนดี้
..........เมื่อเคนเนดี้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี มีการเปลี่ยนนโยบายของแคมป์เดวิดอีกครั้ง คราวนี้เคนเนดี้ให้สิทธ์แก่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทำเนียบขาวและรัฐมนตรีมาพักผ่อนได้ แต่ต้องจ่ายค่าอาหารและค่าที่พัก นายทหารเรือที่ทำหน้าที่นายทหารคนสนิทของประธานาธิบดีเป็นผู้รับผิดชอบการขอเข้าพักและจัดลำดับความเร่งด่วน
..........มีบันทึกว่าครอบครัวเคนเนดี้มาพักผ่อนที่นี่ไม่บ่อยนักแต่ญาติๆตระกูลเคนเนดี้มาบ่อยเพื่อขี่ม้า ว่ายน้ำ ขี่จักรยานและดูหนังในตอนกลางคืน
..........ในห้วง 18 -22 เมษายน พ.ศ.2505 พันเอกจอห์น เกล็น มนุษย์อวกาศคนแรกของสหรัฐและครอบครัวได้รับเกียรติจากเคนเนดี้ให้มาพักผ่อนในแคมป์เดวิดหลังจากประสบความสำเร็จในการนำยานอวกาศสหรัฐโคจรรอบโลกได้เป็นครั้งแรก
..........แจคเคอลีน เคนเนดี้ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ดูเหมือนจะรักแคมป์เดวิดมากเพราะเธอจะปล่อยให้ลูกๆเล่นได้อย่างอิสระเป็นส่วนตัวและปลอดภัย เธอมีความสุขมากทุกครั้งที่ได้มาที่นี่ เธอจะได้พักผ่อนจริงๆโดยไม่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของฝูงชน ในแคมป์นี้เธอขอร้องเจ้าหน้าที่รปภ.ไม่ต้องติดตามเธอ แจคเคอลีนชอบขี่ม้าชมบริวเณพื้นที่ในแคมป์ด้วยตัวเอง บางครั้งเธอขับรถออกไปนอกแคมป์เพื่อซื้อของใช้ของกินจากร้านค้าเล็กๆในชุมชนที่อยู่ใกล้แคมป์
..........… พฤศจิกายน พ.ศ.2505 ประธานาธิบดีเคนเนดี้ถูกลอบสังหารที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส
..........แคมป์เดวิดในสมัยประธานาธิบดีจอห์นสัน
..........ในสมัยจอห์นสันอเมริกากำลังติดพันในสงครามเวียดนาม ประชาชนอเมริกันเดินขบวนประท้วงการส่งทหารอเมริกันไปตายในเวียดนามนับหมื่นคน เกิดเหตุจราจลจากการประท้วงในอเมริกาไม่เว้นแต่ละวัน จอห์นสันเลือกที่จะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปอยู่ที่แคมป์เดวิด
..........ครอบครัวจอห์นสันชอบดูหนัง ยิงเป้าบินและว่ายน้ำ แขกคนสำคัญระดับโลกที่บันทึกไว้ว่ามาหารือเรื่องระดับโลกอีกคนหนึ่งคือ อเล็กไซ โคซิกินนายกรัฐมนตรีโซเวียตที่ได้มานั่งคุยนอนคุยและตกลงกันได้เรื่องการไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ เจ้าหน้าที่ของแคมป์เล่าว่าส่วนใหญ่จอห์นสันจะชวนโคซิกินเดินคุยกันสองคนไปตามเส้นทางเล็กในแคมป์ทั้งในตอนเช้าและหลังอาหารค่ำ ซึ่งบรรยากาศแสนจะสงบรื่นรมย์รู้เห็นเป็นใจให้ทั้งสองคนตกลงกันได้
..........สหรัฐเข้าไปติดหล่มในสงครามเวียดนามหลายปีทหารอเมริกันตายเป็นหมื่น ถอนตัวไม่ขึ้น จอห์นสันปวดร้าวกับเรื่องนี้มากชาวอเมริกันประท้วงและก่อการจลาจลหนักขึ้นทุกวัน แคมป์เดวิกนี่แหละเป็นอาศรมให้ผู้นำสหรัฐต้องทบทวนคิดหาทาง "เจรจาหยุดยิง" ให้ได้
..........จอห์นสันเล่าว่า "เช้าวันที่ 8 เมษายน ผมได้บินออกจากทำเนียบขาวผมรู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจจากเสียงรกกวนและพ้นจากคาร์บอนมอนนอกไซด์ในวอชิงตัน เมื่อถึงเรือนที่พัก Aspen ในแคมป์เดวิดผมรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เป็นชุดที่สบายที่สุดรับฟังข้อมูลที่จะเจรจากับเวียดนาม แล้วผมก็หลับไปบนเก้าอี้นอนตัวโปรดจนกระทั่งถึงเวลาอาหารเย็น เช้าวันรุ่งขึ้นผมก็สดชื่นพร้อมที่จะหารือเรื่องการหยุดยิงในเวียดนาม… "
..........ผมว่าปุถุชนทุกคน ยากดีมีจนโดยเฉพาะผู้นำทั้งหลายต้องมีความรู้สึกอยากอยู่คนเดียว สันโดษ ปล่อยกายปล่อยใจ ปลดเปลื้องให้มันโลดแล่นลอยล่องไปเรื่อยเปื่อย จึงจะพบกับความสุข
..........มาถึงสมัยประธานาธิบดีนิกสัน เมื่อนิกสันเข้ารับตำแหน่งไม่นานก็มาพักที่แคมป์เดวิด มีบันทึกว่านิกสันโปรดปรานแคมป์เดวิดมาก เพียงแค่ 2 ปีแรกนิกสันมาพักที่แคมป์เดวิดเท่ากับประธานาธิบดี 5 คน ที่ผ่านมารวมกัน นิกสันชอบดูหนัง อ่านหนังสือ ว่ายน้ำ โยนโบว์ลลิ่ง ขับรถกอล์ฟไปรอบ ๆ แคมป์ นิกสันมาที่แคมป์เพื่อทำงานและพักผ่อน ในสมันนิกสันมีการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมอีกหลายหลัง
..........บันทึกของแคมป์เดวิดระบุว่านิกสันใช้แคมป์นี้รับรองประมุขต่างประเทศที่มาจากทั่วโลก อาคันตุกะคนสำคัญคือเจ้าฟ้าชายชารล์สและเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ คนเฝ้าแคมป์รุ่นเก่าเล่าว่าตอนที่เบรสเนฟ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียตและคณะใหญ่โตมาประชุมเรื่องปัญหาตะวันออกกลางนั้นปรากฎว่าที่พักในแคมป์ไม่พอรองรับเจ้าหน้าที่ของโซเวียตบางส่วนต้องไปเช่าโรงแรมในเมือง กองทัพนักข่าวแห่กันมาพักผสมโรงเข้าไปอีกทำเอาเมืองที่อยู่ใกล้ ๆ แคมป์คึกคักตูมตาม ขายของได้เป็นจำนวนมาก
..........นิกสันมีกฎอยู่ว่าแขกต่างประเทศที่บินข้ามเส้นเขตวัน (International Date Line) จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนพบปะสนทนากับนิกสัน นักบินอวกาศและครอบครัวของยานอพอลโล่ 13 -14-15-16 และสกายแลปได้รับเกียรติจากนิกสันให้มาพักโดยถือเป็นวีรบุรุษของชาติ
..........คนใกล้ชิดนิกสันบอกว่านิกสันจะมาร่างสุนทรพจน์สำคัญ ๆ และซักซ้อมด้วยตนเองที่นี่ บ่อยครั้งที่นิกสันขอร้องว่า "ขออยู่คนเดียวเงียบ ๆ " โดยนั่งเก้าอี้ในสนามหญ้าหรือเดินเล่นคนเดียวโดยไม่ต้องการผู้ติดตามทั้งสิ้นเราะต้องการเป็นตัวของตัวเอง นิกสันชอบพูดว่า "ขอเวลาผมมองโลกใบนี้อย่างสงบคนเดียว"

แคมป์เดวิดในสมัยประธานาธิบดีบุช (คุณพ่อ)
..........บุชและครอบครัวค่อนข้างจะคุ้นเคยกับแคมป์เดวิดเป็นอย่างดีเพราะสมันเป็นรองประธานาธิบดีก็ได้มาพักที่นี่หลายครั้ง เมื่อเป็นประธานาธิบดีมีบันทึกว่าบุชมาพักที่แคมป์เดวิด 3 ครั้ง (สุดสัปดาห์) ในหนึ่งเดือนนับว่าไม่น้อยทีเดียว บุชย้ำนักหนาว่าต้องการให้แคมป์เดวิดเป็นสถานที่เงียบสงบสำหรับพักผ่อนจริง ๆ ถึงกับออกกฎว่าไม่ให้มีพิธีรีตรองทั้งสิ้นจะไม่มีการผูกเนคไทในแคมป์นี้แม้กระทั่งไปโบสถ์ เจ้าหน้าที่ติดตามที่มาจากทำเนียบขาวให้มีจำนวนน้อยที่สุด คงไว้เฉพาะหมอ พยาบาล และนายทหารคนสนิทเท่านั้น
..........สูงสุดสู่สามัญ…ตามคารมหนังจีนครับ ท่านผู้อ่านที่เคยได้สัมผัสอเมริกันชนจะพบว่า อเมริกันชน จะชอบอะไรง่าย ๆ ไม่ต้องการพิธีรีตรอง รักอิสระภาพยิ่ง เนคไทเป็นเสมือนเครื่องพันธนาการอย่างหนึ่ง ถ้าไม่ใช้ได้ก็วิเศษที่สุด นายทหารบางท่านไปเรียนหนังสือในอเมริกาถึงกับต้องมีการตกลงกันก่อนล่วงกน้าเลยว่าจะไม่ใส่สูทผูกเนคไทตลอดหลักสูตรเลยทีเดียว ผมเห็นเวิร์คชอบเสาร์-อาทิตย์ในประเทศไทยมีบรรยากาศสบาย ๆ ก็พลอยผ่อนคลายไปด้วย
..........เจ้าฟ้าชายชาร์ลเป็นแขกพระองค์แรกของบุชและตามด้วยผู้นำอีก 17 ประเทศ ที่ทยอยกันมาพบบุชที่แคมป์เดวิด รวมทั้งการ์บาชอฟและเยลท์ซิ่น บุชจะใช้แคมป์เดวิดพักผ่อนและทำงานควบคู่กันไปโดยไม่ขาดตอน บุชจะใช้บรรยากาศสบาย ๆ ในแคมป์เดวิดโทรศัพท์ไปพูดคุยกับผู้นำประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกโดยมีสุนับตัวโปรด "เรนเจอร์" คลอเคลียอยู่ตลอด ช่วงหยุดคริสต์มาสต์ทั้ง 4 ครั้ง บุชและครอบครัวตลอดจนหลาน ๆ มาพักอยู่ที่นี่
..........ในสมัยบุชอนุญาตให้เจ้าหน้าที่อาวุโสของทำเนียบขาวมาพักได้เมื่อบุชและครอบครัวไม่ได้มาพัก เจ้าหน้าที่ในแคมป์จะประทับใจบุชในความเป็นกันเองโดยไม่ถือตัว วันครบรอบ 50 ปีของแคมป์เดวิดมาตรงกับสมัยบุชจึงมีการเฉลิมฉลออย่างสนุกสนานและถือเป็นการเลี้ยงส่งครบวาระของบุชด้วยล
..........บุชกล่าวอำลาเจ้าหน้าที่แคมป์ด้วยความอาลัยว่า "พวกเราทุกคนในตระกูลบุชไม่เคยคิดว่าพวกท่านเป็นเจ้าหน้าที่ เราคิดว่าพวกท่านทุกคนคือสมาชิกในครอบครัวของเรา" ..........แคมป์เดวิดในสมัยประธานาธิบดีคลินตัน
..........คลินตันรับตำแหน่งไม่ถึงอาทิตย์ก็ยกขบวนใหญ่เพื่อจัดคณะบุคคลเข้าทำงานในรัฐบาล ลางเนื้อชอบลางยา ตลอด 8 ปีในสมัยคลินตันแทบไม่มีบันทึกอะไรน่าสนใจเพราะคลินตันแทบไม่ได้มาที่แคมป์เดวิดเลย
..........เจ้าหน้าที่แคมป์เล่าว่าคลินตันมีตารางกำหนดการที่แน่ชัดจำได้ว่าจะมาที่แคมป์นี้ใน วัน ขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) เพื่อทานอาหารเย็นกับเพื่อนสนิท…ก็เท่านั้น
..........ในสมัยคลินตันมีเรื่องที่ไม่ค่อยเรียบร้อยเกี่ยวกับการรณรงค์บริจาคเข้าพรรค ผู้ทีเกี่ยวข้องกับการหาเงินจะได้เข้าพบคลินตันในทำเนียบขาวหรือได้สิทธิ์มาพักที่แคมป์เดวิด ในช่วงพ.ศ.2536 - 2539 คลินตันให้แขกมาพัก 938 คน ไม่มีบันทึกที่แน่นอน่ว่ามาจากที่ใด ในช่วงปีพ.ศ.2542 - 2543 มีแขกของคลินตันมาพัก 404 คน ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังได้เข้ามาพักทีแคมป์นี้รวมทั้งเจน ฟอนด้า แคมป์เดวิดไม่มีข้อมูลมากกว่านี้ แปลกกว่าประธานาธิบดีท่านอื่น ๆ คลินตันไม่เคยเชิญผู้นำต่างประเทศที่แคมป์เดวิดเหมือนประธานาธิบดีท่านก่อน ๆ มีครั้งเดียวก่อนคลินตันหมดวาระ คลินตันเชิญนายกรัฐมนตรี บารัคของอิสราเอล และอาราฟัตผู้นำปาเลสไตน์ มาพบกันที่นี่เมื่อ 23 ก.ค. 43 นี้เองเพื่อเจรจาตกลงสันติภาพในตะวันออกกลาง 2 วันผ่านไปปรากฎว่าตกลงกันไม่ได้ คลินตันถึงกบัขอร้องให้อาราฟัตยอมรับข้อเสนอของอิสราเอล ทำเอาอาราฟัตฉุนแล้วตอบกลับว่า "ท่านประธานาธิบดีกำลังขอร้องให้ผมเซ็นชื่อประหารชีวิตตัวเองหรือนี่ ? "
..........บรรยากาศในแคมป์เดวิดก็ใช่ว่าจะช่วยให้ทุกอย่างสำเร็จด้วยดีเสมอไป ?
..........แคมป์เดวิดในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช (คุณลูก)
..........บุชไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับแคมป์เดวิดเพราะเคยมาพักที่นี่บ่อยสมัยบุช (คุณพ่อ) หลังจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีไม่นาน 23 กุมภาพันธ์ 2544 นายกรัฐมนตรีโทนี่ แบลร์ของอังกฤษมาพักผ่อน เยี่ยมเยียนถกปัญหาเรื่องอิรักและปัญหาไอร์แลนด์เหนือ
..........24 มิถุนายน 2544 นายกรัฐมนตรี คูโอซูมิ ของญี่ปุ่นเป็นแขกคนสุดท้ายที่มาพักที่แคมป์นี้เพื่อหารือกับบุชเรื่องปัญหาเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ก่อนเกิดเหตุการณ์ในอเมริกา
..........หลังเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่ในอเมริกาเมื่อ 11 กันยายน 2544 บุชนำคณะที่ปรึกษาคู่ใจมาที่แคมป์แทบทุกสุดสัปดาห์เพื่อวางแผน บัญชาการรบในอัฟกานิสสถาน บุชประกาศว่าจะไม่ยอมให้ผู้บริจาคเงินช่วยพรรค (ตอนหาเสียงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี) เข้ามามีสิทธิ์ใช้แคมป์เดวิดเป็นอันขาด

--------------------------