02 พฤศจิกายน 2552

ตำนานเหรียญปราบฮ่อ

ตำนานเหรียญปราบฮ่อ

โดย พลตรี นิพัทธ์ ทองเล็ก
ผู้อำนวยการสำนักวางแผนการฝึกร่วมผสม
กรมยุทธการทหาร บก.ทหารสูงสุด







...........ผมไม่ค่อยจะรู้เรื่องราวของ พระเครื่อง พระกรุ พระพิมพ์ เหรียญหลวงปู่ หรือของดีคล้องคอเลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าเห็นใครเค้ายกกล้องขึ้นมาส่องพิจารณาเครื่องลางของขลัง ผมต้องเร่เข้าไปขอร่วมแจม ประเภทครูพักลักจำ ฟังเอาไว้เป็นความรู้ได้ซักพักแล้วก็ลืมเลือนไป
..........ผมว่านายทหารในกองทัพไทยเกือบทุกคนมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชา และนำมาคล้องคอเพื่อความเป็นศิริมงคลกันทั้งนั้น มากบ้างน้อยบ้างพวงเล็กพวงใหญ่ ล้วนแล้วแต่มีทีเด็ดด้วยกันทั้งนั้น ผมรู้จักนายทหารรุ่นพี่ ๒ -๓ ท่าน ที่พกกล้องส่องพระติดตัวและมีกึ๋นที่จะให้พี่น้องได้คว้าของดีมาให้ช่วยส่องกล้อง
..........เซียนพระส่องของดีแล้วเปล่งมธุรสวาจา พรรณนา ความเก่าแก่ ความศักดิ์สิทธิ์ ความสวยงามให้เจ้าของได้ชื่นใจ เซียนพระประเภทนี้ จะมีพันธมิตรเยอะแยะ เพราะใครๆ ก็ชอบฟังว่าของกูเยี่ยม งานการแทบไม่ต้องทำ เขาเอาพระ เอาของดีมาให้ดูทั้งวัน เซียนพระประเภทนี้ผมว่ามีเสน่ห์ครับ แต่เซียนประเภทตรงไปตรงมา ส่องกล้องแล้วปกปิดความรู้สึกไว้ไม่อยู่ แสดงออกทางสีหน้า และยังส่ายหัวอีกต่างหาก ลงความเห็นว่าของดีของพี่มันของเก๊ นี่หว่า ผมขอบอกว่าไอ้ประเภทนี้ พี่ๆ น้องๆ ในกองทัพกำลังหาทางพิจารณาว่าจะไม่ได้ความร่วมมือในงานราชการและงานส่วนตัวตลอดไปครับ (ผมล้อเล่นครับ !)
...........หนังสือพิมพ์หลายฉบับ โดยเฉพาะวันอาทิตย์ จะมีคอลัมน์เจาะลึกเกี่ยวกับพระเครื่องและนำเอา รูปพระกรุ เหรียญ ของดีนานาชนิดตั้งแต่ครั้งโบราณกาลมาเผยแพร่ให้อ่านกันสนุกๆ
..........ผมไปสะดุดใจตรงเหรียญปราบฮ่อ ที่ว่ากันว่ามูลค่าของการบูชากันนั้นเป็นเลข ๗ หลักทีเดียว เอาเถอะครับ จะว่ากันยังไงผมคงขอผ่านไป แต่มาสงสัยว่า ไอ้ฮ่อ ไอ้แฮ่ นี่มันมาจากไหน รบกันที่ไหน อย่างไร และที่มาของเหรียญปราบฮ่อเป็นอย่างไร ? ซึ่งไปค้นหาคำตอบมาเล่าสู่กัน จึงพบว่าบรรพบุรุษไทย ที่เปรียบเสมือนพระกรเบื้องขวาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ท่านทรงเป็นแม่ทัพใหญ่ที่นำทัพไทยนองเลือดรบกับฮ่อ
..........ท่านทรงเป็นอัจฉริยะบุรุษอย่างแท้จริง เพรียบพร้อมด้วยความสัตย์ซื่อ ยุติธรรม เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าชีวิตตน จนได้รับสมญานามว่า “ไฮ้สุยแห่งกรุงสยาม” มีความรู้ความสามารถเสมือนหนุมานของพระราม ซึ่ง “ใช้ไหนได้นั่นดั่งใจ”
..........สรุปได้ว่า ปี พ.ศ.๒๔๐๘ พวกฮ่อได้ก่อสงครามขึ้นทางตอนเหนือของสยามประเทศ จีนฮ่อตั้งตนก่อการกบฎต่อรัฐบาลแมนจู (ราชวงศ์เซ็ง) ต่อมาเรียกว่า กบฎไต้เผ็ง พวกกบฎแม้วรวมพวกได้มาก แต่ก็สู้ความพร้อมของ กองทัพแมนจูไม่ได้ ในที่สุดก็พ่ายแพ้ต่อทหารรัฐบาล ต่างคนต่างก็หนีเอาตัวรอด ลงใต้ หลบซ่อนตัวตามป่าเขา ในเขตมณฑลฮกเกี๋ยน กวางตุ้ง กวางไส และเสฉวน ในปีเดียวกัน (พ.ศ.๒๔๐๘) กบฎฮ่อพวกแรก นำโดยง่ออาจง ตั้งตัวเป็นหัวหน้า รวบรวมพลพรรคได้ประมาณ ๔,๐๐๐ คน ยกพลเข้ามาเขตอ่าวตังเกี๋ย ดินแดนของพวกญวน สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว ญวนต้องไปขอกำลังจากเมืองจีน จีนส่งกำลังทัพถึง ๑๐,๐๐๐ คน เข้าตีฮ่อ ไม่นานพวกฮ่อก็แตกพ่าย ง่ออาจงสู้ตายในสนามรบ เมื่อตัวหัวหน้าตาย พรรคพวกที่เหลือต่างพากันหลบหนี
..........ตามประวัติศาสตร์เมืองซันเทียน เขตติดต่อแม้ว ชายแดนจีนติดญวน คือสถานที่พักและหลบซ่อนตัวของกบฎฮ่อ ความกำเริบเสิบสานของฮ่อยังไม่หมด ปวงนันซี กับน้องชายของง่ออาจง รวบรวมพวกได้ ๑๐,๐๐๐ คน ในปี ๒๔๐๙ ลงไว้ว่า บุกตีเมืองเลารายของญวน และสามารถตีได้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๐ ต่อมาเกิดความแย่งชิงความเป็นใหญ่ ปวงนันซีกับจอมทัพของตัวเอง ชื่อลิ่วตายัน เข้าสู้รบกันเอง ว่ากันว่าปวงนันซีนั้นพ่ายแพ้แก่ลิ่วตายัน จึงยกพวกหลบมาตั้งมั่นที่เมืองฮานยาง ในสิบสิงจุไทย เป็นที่มาของกองโจรฮ่อ “ธงเหลือง” (ฮ่อธงดำ เป็นพวกลิ่วตายัน ภายหลังรวมพวกเป็นญวน)
..........ในปี ๒๔๑๗ ฮ่อธงเหลืองยกทัพเข้าตีเมืองเชียงขวาง ขณะนั้นท้าวขันติ เจ้าเมืองขอกำลังญวน มาช่วย แต่ก็แพ้ ฮ่อธงเหลืองเดินทัพมาตั้งมั่นที่ทุ่งเชียงคำ พ.ศ.๒๔๑๘ ไทยขณะนั้น พระยามหาอำมาตย์ (ชื่น กัลยาณมิตร) ข้าหลวงออกมาการสักเลข (เกณฑ์ทหาร) ตามหัวเมืองต่างๆ ทราบข่าวก็แจ้งกลับมายังกรุงเทพฯ ส่วนตัวได้เกณฑ์ชาวบ้านไปป้องกันไว้ก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาภูธราภัย ยกทัพไปเมืองหลวงพระบาง และโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เจ้าพระยามหินทรศักดิ์ ดำรงเป็นแม่ทัพยกทัพ ไปเมืองหนองคาย ทัพของพระยามหาอำมาตย์ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน ปรากฎว่ารบชนะฮ่อ บุกตะลุยตีฮ่อแตก ที่ทุ่งเชียงคำ ประกอบกับ ทัพหลวงที่ยกมาทันเวลาทำให้พวกฮ่อพ่าย แตกกระจัดกระจายเหตุการณ์ทางหลวงพระบาง
..........ในเวลาเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้พระยาพิไชย (ดิส) เกณฑ์กำลังจากพิษณุโลก แล้วให้ล่วงหน้าไป แต่กำลังพลไม่พอที่จะตีพวกฮ่อได้ ทำได้เพียงป้องกันและตั้งทัพรอทัพหลวง เมื่อเจ้าพระยาภูธราภัยทราบเรื่อง จึงให้พระยาสุริยภักดี (เอก บุณยรัตพันธุ์) รีบยกทัพไปช่วย รวมทัพของพระยาพิไชยด้วยแล้ว ทัพฮ่อก็แตก ฮ่อสงบไปได้เพียง ๙ ปี ในปี พ.ศ.๒๔๒๖ ธงเหลืองพวกฮ่อก็กำเริบขึ้นอีก คราวนี้ กรรมสนองไม่พลาด ปวงนันซีตายขณะพาพวกปล้นเมือง กบฎฮ่อขาดผู้นำก็แตกกระจายเป็นหลายพวก แต่กลับมีฮ่อธงสีต่างๆ เกิดขึ้น กระทั่งอาจึงกับไกว ซึ่งเป็นหัวหน้าฮ่อธงเหลืองรวมพวกได้ใหม่ ที่ตั้งค่ายใหญ่ที่ทุ่งเชียงคำ แขวงเมืองพวน ญวนเรียกเมืองนี้ว่า ตันหมิน ๗ ปีต่อมา เกิดความกำเริบยกทัพตีเมืองหัวพันทั้งห้า ทั้งหก
..........พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้พระยาพิชัย (มิ่ง) พระยาสุโขทัย (ครุฑ) รีบยกทัพสกัดและแต่งตั้งพระยาศรีธรรมธิราชเป็นแม่ทัพใหญ่ รีบยกทัพตามขึ้นไปปรายฮ่อ เมื่อถึงเมืองหลวงพระบาง ฮ่อก็หนีไปตั้งค่ายที่ทุ่งเชียงคำ ต่อสู้กันนานก็ไม่สามารถตีฮ่อแตกได้ และในคราวนี้พระยาราชวรานุกูล ถูกกระสุนปืนพวกฮ่อที่ขา แต่ก็ยังสู้นานถึง ๒ เดือน กองทัพไทยเริ่มอิดโรย ประกอบกับเสบียงอาหารเริ่มขาด พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงโปรดเกล้าฯ เรียกทัพกลับ ฮ่อสงบลงได้ ๒ ปี
..........พ.ศ.๒๔๒๘ กบฎฮ่อได้กำเริบอีกครั้ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้แยกทัพเป็น ๒ ทัพ ทัพหนึ่งโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พันเอกพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นประจักษ์ ศิลปาคม เป็นแม่ทัพ ไปปราบฮ่อเมืองพวน อีกทัพหนึ่งโปรดเกล้าฯ ให้ จหมื่นไวยวรนารถ (เจิม แสงชูโต) หัวหมื่นมหาดเล็กเวรขวา ผู้บังคับการ กรมทหารมหาดเล็กคนแรก เมื่อปี ๒๔๑๓ ( ต่อมาเป็นจอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี่) เป็นผู้นำทัพในการรบครั้งนี้ ได้นำการทหารที่ทันสมัยแบบยุโรป เข้าตีทำลายกบฎฮ่อ ทำให้กบฎฮ่อพ่ายแพ้อย่างยับเยิน พากันสวามิภักดิ์ พันเอกจหมื่นไวยวรนารถ ได้รวมพวกฮ่อทำสัตย์ปฏิญาณ ยอมรับสวามิภักดิ์ เสร็จเรียบร้อย จึงนำทัพกลับ
..........ปี พ.ศ.๒๔๓๐ เมืองหลวงพระบาง แจ้งข่าวมาว่า พวกฮ่อกำเริบหนักอีก ครั้งนี้ยกทัพมาปล้นเมืองหลวงพระบางและวังหลวง ราษฎรเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เจ้าอุปราชสุวรรณ พรหมา สิ้นพระชนม์ในที่รบ เจ้ามหินทรเทพนิถาธร เจ้านครหลวงพระบาง และพระมเหสี พร้อมด้วยหมู่พระประยุรญาติ จำนวนประมาณ ๕๐ พระองค์ เสด็จหนีทางชลมารค และเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงมีกระแสรับสั่งให้จอมพล เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีรับรองอย่างสมเกียรติ ในครั้งนั้น พระเจ้ามหินทรเทพนิถาธร พระมเหสี และพระประยุรญาติ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้เข้าเฝ้า ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และโปรดเกล้าฯ พระราชทางเครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎสยาม มหาสุราภรณ์ ชั้นที่ ๑ พร้อมกับโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี นำเสด็จกลับเมืองของพระเจ้ามหินทรเทพฯ การยกไปปราบฮ่อครั้งนี้ พวกกบฎฮ่อถูกปราบลงอย่างราบคาบ มีการจัดระเบียบการปกครองเสียใหม่ ฮ่อจึงไม่สามารถหวนกลับมากำเริบเสิบสานได้อีก แต่..ทางไทยกลับต้องเผชิญปัญหาที่หนักกว่าการปราบฮ่อมากมายหลายเท่า ซึ่งก็คือกรณีพิพาทและเสียดินแดน ร.ศ.๑๑๒





จอมพล เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี (เจิม แสง-ชูโต)
เมื่อครั้งเป็นนายพันเอก เจ้าหมื่นไวยวรนาถ
แม่ทัพในสงครามปราบฮ่อฝ่ายไทย ใน พ.ศ. 2428 - 2430 (นั่งทางซ้าย)
ถ่ายรูปคู่กับ เจ้าราชวงศ์ (คำสุก) แห่งหลวงพระบาง (นั่งทางขวา)
ที่กองบัญชาการเมืองซ่อน

..........เกี่ยวกับการจัดสร้างเหรียญที่ระลึกพระราชทางปราบฮ่อ บางตำรารวบรวมข้อมูลว่า จัดสร้างเมื่อปีวอก จุลศักราช ๑๒๔๖ (พ.ศ.๒๔๒๗) หากพลิกดูด้านหลังเหรียญจะระบุ จ.ศ. แต่ละครั้งว่า ๑๒๓๙, ๑๒๔๗, ๑๒๔๙ ปีที่ระบุนั้น เกินปีจัดสร้างถึง ๒ ครั้ง ลักษณะของเหรียญ ลักษณะเป็นรูปกลมขนาดใหญ่ เชื่อมหูติดแพรแถบ ด้านหน้ามีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ครึ่งพระองค์ ผินพระพักตร์เบื้องขวา ต่ำจากเส้นกั้นของเหรียญ จารึกตัวอักษรไทยว่า จุฬาลงกรณ์บรมราชาธิราช ต่ำลงมาใต้พระบรมรูป จะปรากฎลายช่อชัยพฤกษ์ ตรงกลางผูกโบ รายละเอียดคมชัด ด้านหลังเป็นรูปพระสยามเทวาธิราช ทรงพระแสงของ้าว ทรงคชาธารยืนอยู่บนศาสตราวุธ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์พวกฮ่อ รอบตัวเหรียญมีอักษรไทยปรากฎว่า ปราบฮ่อ ๑๒๓๙, ๑๒๔๗, ๑๒๔๙ ผู้ออกแบบเหรียญ สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ แพรแถบสีดำ ริมขอบสีเหลือง กว้าง ๒.๕ ซม.
..........การพระราชทานเหรียญปราบฮ่อ มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา เหรียญที่มีการพระราชทานให้จะมีตัวเลขกำกับไว้ในเหรียญด้านหน้า ผู้ใดได้ร่วมไปราชการปราบฮ่อในปีใด ก็จะพระราชทานเข็มสำหรับปีนั้น เข็มจะประดับบนแพรแถบ จะหาผู้ใดที่ได้ไปราชการปราบฮ่อ ทั้ง ๓ ครั้งนั้นยากมาก จึงมักพบเข็มที่ประดับ บนแพรแถบเพียงหนึ่งหรือสองเท่านั้น เท่าที่พบจากข้อมูลตำราบางเล่ม


ผู้ที่ได้รับพระราชทานเหรียญปราบฮ่อ ๓ ครั้ง มี

..........๑. พระวิภาคภูวดล (เจมส์ แมคคาที)
..........๒. หลวงคำนวนคัดฌานต์ (ตรี)
..........๓. ขุนประมาณสถลมารค (ใจ)
..........๔. นายสว่าง นายเวรกรมแผนที่

ผู้ที่ได้รบพระราชทานเหรียญปราบฮ่อ ๒ ครั้ง
..........๑. หลวงพลสินธวาณัตถ์ (ริ ชิ ลิว)
..........๒. ขุนนภาภาคพัติการ (เอม)




จุดสำคัญที่ใช้สังเกตุในพิมพ์เหรียญที่ระลึกปราบฮ่อ


..........๑. เหรียญที่ระลึกปราบฮ่อ เท่าที่พบมีขนาดการสร้างแบบใหญ่ กลาง เล็ก (ย่อ)
..........๒. ชนิดของเนื้อเหรียญมีเงิน, ทองแดง ส่วนมากจะมีหูติดแพรแถบสี ซึ่งเป็นชนิดที่แจกทั่วไป
..........๓. ชนิดไม่มีหู เป็นเหรียญสำรองคงคลัง ขนาดของน้ำหนักเหรียญจะเท่ากัน อาจแตกต่างกันบ้างไม่กี่มิลลิกรัม สร้างแบบใหญ่ กลาง เล็ก (ย่อ)






เหรียญที่ระลึกปราบฮ่อ เนื้อทองแดง (ด้านหน้า)



..........จุดสังเกตด้านหน้า
..........๑. ขอบของเหรียญจะนูนหนา มีเส้นกั้นขอบเหรียญหนึ่งเส้น วิ่งโค้งรอบ เส้นนี้จะโค้ง (ช่างทำไว้เพื่อเป็นโค้ตเหรียญ) เพราะฉะนั้นเหรียญรัชกาลที่ ๕(ปราบฮ่อ) จะเชื่อมหูตรงกัน โดยไม่มีผิดตำแหน่งกันเลย
..........๒. ใบไม้ตรงกลางแกะเป็นจุดนูนค่อนข้างกลม
..........๓. เชือกผูกโบมีเส้นขีดข้างแนวนอนและแนวตั้งชัดเจน
..........๔. จะมีเส้นเรียวเล็ก วิ่งหายไปกับพื้นเหรียญ
..........๕. ตัวหนังสือแกะเป็นแท่งเป็นเหลี่ยม มีเส้นขอบเด่นนูนชัดเจนตรงตัว ณ เณร มีเส้นแกะสองลอน ส่วนแหลมเป็นหยักชัดเจน
..........๖. เป็นรูปตัว A ชัดเจน (เหรียญแท้ลายเส้นจะคมชัด)






เหรียญที่ระลึกปราบฮ่อ เนื้อทองแดง (ด้านหลัง)



..........จุดสังเกตด้านหลัง
..........๑. เส้นกั้นขอบเหรียญนูนใหญ่ชัดเจน
..........๒. ลักษณะของหนังช้างที่ย่นจะเหมือนจริง
..........๓. รอยบากเป็นร่องลึกชัดเจน ตรงปลายพระแสงดาบ
..........๔. เส้นที่ปรากฎตรงด้ามจับพระแสงดาบ วิ่งเป็นทิวแถวชัดเจน
..........๕. ปลายหางเลข ๙ แตกเป็นปากตะขาบ
..........๖. เส้นวิ่งเห็นชัดตรงโคนขาช้าง
..........๗. คำว่าปราบ ร เรือ แกะหัวผิดช้าง


..........ท่านผู้อ่านท่านใดมีเหรียญแบบนี้ในครอบครอง ขอให้ทราบว่ามีค่าเหลือประมาณ เก็บรักษาไว้ให้ดีนะครับ



------------------------


22 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ27/10/53 20:02

    ดีมากค่ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมมีครับท่านผมอยากจะขายครับท่านทุกอย่างตรงตามตำราหมดครับราคาเท่าไรครับท่านมีคนสนใจชื้อไหมครับผมเบอร์โทรผม
      0988759010
      ชื่อเฟสบุค กิติยา ภู่ไพรัช
      ครับ

      ลบ
    2. ผมมีครับเปนทองแดง

      ลบ
  2. สอบถามค่ะ เหรียญเปลือยที่มีห่วงขนาดเล็กสุดตอนนี้หาเช่ากันราคาประมาณเท่าไหร่คะ

    ตอบลบ
  3. อยากรบกวนให้ช่วยดูเหรียญ ร.5 ไม่ทราบต้องส่งรูปไปให้ดูที่ไหนได้คะ
    รบกวนส่งเมล์มาที่
    prapaisri.noy@gmail.com

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ17/11/56 19:03

    ผมมีอยู่1เหรียญคับดูให้หน่อยคับ

    ตอบลบ
  5. ไม่ระบุชื่อ20/10/57 01:40

    อยากรบกวนให้ช่วยดูเหรียญ ร.5 ไม่ทราบต้องส่งรูปไปให้ดูที่ไหนได้ครับ
    รบกวนส่งเมล์
    weerapon@scg.co.th,weerapon6666@gmail.com

    ตอบลบ
  6. ผมมีอยู่ 1 เหรียญครับต้องการขายครับใครสนใจติดต่อได้ที่ Tel.0945610188 ผมอยู่ปทุมธานี คลองหลวง ขอบคุณครับ.

    ตอบลบ
  7. ผมมีอยู่1เหรียญครับ

    ตอบลบ
  8. ขอบคุณครับท่าน พล อ. นิพัทธ์ ผมเพิ่งทราบข้อแตกต่างระหว่างเหรียญเงินกับทองแดงครับ แสดงว่า มีสองบล๊อคใช่ไหมครับ

    ตอบลบ
  9. ผมมีหนึ่งเหรียณครับช่วยลบกวนดูให้ผมหน่อยครับ
    ชื่อเฟสและราย
    ชื่อ กิติยา ภู่ไพรัช
    เบอร์โทร 0988759010

    ตอบลบ
  10. ช่วยดูเหรรียญปราบฮ่อให้ผมหน่อยครับ
    ชื่อเฟสและราย
    ชื่อ กิติยา ภู่ไพรัช
    0988759010

    ตอบลบ
  11. มี1เหรียญครับ​ รบกวนดูให้บ้างครับผม
    เหรียญปราบฮ่อ​ 1239​ 1247​ 1249
    LINE​ ID :@btb8480g
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  12. มีหนึ่งเหรียญอยากขาย

    ตอบลบ
  13. มีครับเปนทองแดง

    ตอบลบ
  14. ผมมีหนึ่งเหรียญเนือเงิน

    ตอบลบ
  15. สวัสดีครับ ผมมีหนึ่งเหรียญเนี้อเงินขนาดเท่าเหรียญ 10 บาทใหญ่กว่าเหรียญ 5 บาทนิดหนึ่งครับน่าจะขนาดกลาง ห่วงตุ้มหมุนได้ ห่วงแบบนี้บ้างว่าปลอม ห่วงตุ้มหมุนได้ของแท้ๆมีทำใหมครับ บางเว็ปที่น่าเชื่อถือก็ลงกันแต่เหรียญจะใหญ่กว่า เหรียญสึกพอประมาณมีริ้วรอยบี้เบลอพอประมาณ ยังพอสวย เนื้อเงินขาวมันใสคล้อยๆเหรียญบาทหนึ่งรัชกาลที่ 5 แปะเลยครับ ไอดีไลน์ 0899288895 ครับ

    ตอบลบ
  16. สวัสดีครับผมมีอยู่เหรียญครับเหรียญทองคำตรงตามแบบที่เขากำหนดเลยขอบสตางค์น้ำหนัก 20.9 กรัม สนใจติดต่อหาผมนะครับ 082 800 2559 ตั้มครับ

    ตอบลบ
  17. สวัสดีมีราคาเช่าหากันแพงมั๊ยครับ

    ตอบลบ
  18. สวัสดีมีราคาเช่าหากันแพงมั๊ยครับ

    ตอบลบ
  19. สวัสดีมีราคาเช่าหากันแพงมั๊ยครับ

    ตอบลบ
  20. มี 1เหรียญ เป็นเงิน
    0989351478

    ตอบลบ