14 ธันวาคม 2552

บทที่ 2

การเรียนรู้จากเวียดนาม
โดย คริส โรบินสัน

------------


..........ในการฉลองวันครบรอบปีที่หนึ่งของการปลดปล่อยเวียดนาม สำนักพิมพ์ รีคอน ได้จัดพิมพ์หนังสือเรื่อง “เราชนะสงครามอย่างไร” ของ นายพล เหงียน เกี๊ยบ และ นายพล วัน เทียน ดุง ขึ้น หนังสือเล่มนี้มิได้กล่าวว่ารัฐบาลและฝ่ายทหารของสหรัฐ ฯ ดำเนินการผิดพลาดอย่างไรในเวียดนามและมิได้อธิบายว่า บรรดาประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้แก่ ไอเซนเฮาว์, เคนเนดี้, จอห์นสัน, นิกสัน และฟอร์ด ต่างประสบความพ่ายแพ้ในสงครามอินโดจีนของเขาเหล่านั้นอย่างไรบ้าง

ผู้นำของสหรัฐ ฯ ดังกล่าว รวมทั้งคณะที่ปรึกษาทางการเมืองและการทหาร มิได้พ่ายแพ้สงครามในเวียดนาม เนื่องจากการปฏิบัติที่ผิดพลาดทางการเมือง หรือทางยุทธศาสตร์แต่ประการใด และพวกเขาก็มิได้พ่ายแพ้เนื่องจากกำลังรบขาดการฝึก หรือขาดความเหมาะสมที่จะเผชิญกับรูปแบบของการต่อสู้ในเวียดนาม แต่แท้ที่จริงแล้วสหรัฐ ฯ ไม่มีหนทางที่จะเอาชนะสงครามในเวียดนามได้เลย

เรื่องนี้มีเหตุผลอยู่ 2 ประการ คือ ประการแรก สหรัฐ ฯ ต้องลดฐานะจากความเป็นอภิมหาอำนาจแต่ผู้เดียวลง ความล้มเหลวของสหรัฐ ฯ ในการเอาชนะสงครามเกาหลี เป็นจุดเปลี่ยนและการเผชิญหน้ากับการปฏิบัติของเวียดนามเป็นตัวผลักดันให้สหรัฐ ฯ ต้องลดฐานะลงไป อย่างไรก็ดีมิได้หมายความว่ากองกำลังรักชาติใด ๆ ในโลกที่สาม จะสามารถเอาชนะสหรัฐ ฯ ได้ และสาเหตุประการที่สองของความพ่ายแพ้สหรัฐ ฯ คือชัยชนะของเวียดนาม ซึ่งมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเหตุผลประการแรก และเหตุผลประการที่สองนี้เอง เป็นหัวข้อของหนังสือเรื่อง “เราชนะสงครามอย่างไร”

นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ เป็นผู้กำหนดยุทธศาสตร์ทางการทหารของเวียดนาม และเป็นผู้ก่อตั้งกองทัพเวียดนาม กับทั้ง เป็นนักคิดทางยุทธศาสตร์มาก่อนที่จะมีการปลดปล่อยเวียดนามใต้เมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 1975 ถึง 30 นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ เป็นสมาชิกกรมการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์ เวียดนาม (พรรคกรรมกร) และเป็นรองนายกรัฐมนตรี กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของสาธารณรัฐประชาธิปไตย เวียดนาม ในขณะที่เขาเขียนหนังสือเรืองนี้

พวกเรามีความเห็นว่าบทวิเคราะห์ของ นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ เกี่ยวกับชัยชนะของเวียดนามนั้น ควรจะมีบทนำที่กล่าวถึงสภาวะแวดล้อม และขอบเขตในการพิจารณาสำคัญต่างๆ ของการรุกทางยุทธศาสตร์ของ เวียดนามเมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 1975 ด้วยเหตุดังกล่าวพวกเราจึงได้จัดพิมพ์บทความของ นาย แดนนี่ เชดเตอร์ ผู้อำนวยการด้านข่าวของสำนักงาน ดับบลิวบีซีเอ็นเอฟเอ็ม ในเมืองบอสตัน ซึ่งทำให้ทราบภูมิหลังของเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะที่ นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ ได้ดังกล่าวไว้ การจัดพิมพ์หนังสื่อเรื่อง “เราชนะสงครามอย่างไร”เป็นงานที่สำคัญเนื่องจากชาวอเมริกันควรจะได้เข้าใจว่า อะไรเกิดขึ้นในเวียดนามและชาวโลกจะได้เรียนรู้จากการปฎิบัติในเวียดนาม สาระสำคัญ 2 ประการ ที่นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ ได้กล่าวถึงชัยชนะของเวียดนาม น่าจะนำไปใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี

สาระสำคัญประการแรกได้แก่ การที่เขาเน้นหนักในเรื่องของพรรค นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ ได้เริมบทวิเคราะห์ของเขา โดยให้ความสำคัญกับพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม (พรรคกรรมกร) เขากล่าวว่า “ความเป็นผู้นำทางยุทธศาสตร์ของพรรคมีบทบาทสำคัญที่ส่งผลแตกหักต่อการปฏิบัติการทางทหารในฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา” นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงบทบาทโดยย่อของพรรคในการอธิบายถึงเงื่อนไขของชัยชนะอย่างกระจ่างชัดเจน “เมื่อเราได้ตกลงใจอย่างถูกต้องแล้ว ปัญหาที่จะส่งผลแตกหักคือ การดำเนินการให้การตกลงใจดังกล่าวเป็นจริง ตามความเหมาะสมของการณ์ที่เป็นจริงในแต่ละท้องถิ่น และเวลาที่ปฏิบัติในสนามรบ”พรรคมิได้เป็นแต่เพียงผู้กำหนดแนวทางที่ถูกต้อง เท่านั้นแต่ยังจะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางนั้นๆ ในสภาวะแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์ของการปฏิบัติในเวียดนาม นายพล โว เหงียน เกิ๊ยบ ได้กล่าวย้ำถึง เรื่องนี้ในการวิเคราะห์ต่อมาว่า “ในการต่อสู้เพื่อการปฏิวัติ เมื่อได้กำหนดแนวทางการปฏิวัติที่ถูกต้องแล้ว ปัจจัยสำคัญที่มีผลแตกหักต่อชัยชนะ คือ วิธีการปฏิบัติที่มีลักษณะพลิกแพลงและการต่อสู้ทางทหารก้อเป็นไปในลักษณะ เช่นเดียวกัน

สาระสำคัญประการที่สองนั้น นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ ได้ชี้ให้เห็นถึงการนำศิลปะศาสตร์ทางการทหารไปใช้กับสถานการณ์ในเวียนนามอย่างพลิกแพลง ในหนังสื่อที่จัดพิมพ์เมื่อปี 1964 เขขาได้อธิบายถึงเรื่องการจัดตั้งกองทัพประชาชนเมื่อ 22 ธันวาคม 1944 ว่า “ พวกเราลืมคิดไปว่าเราคือมนุษย์ปุถุชนธรรมดา ซึ่งมีอยู่ด้วยกันเพียง 34 คน และอาวุธที่มีก็เป็นเพียงอาวุธพื้นๆ แต่เรากลับวาดมโนภาพ พวกเราเป็นกองทัพเหล็กอันเกรียงไกรที่ไม่มีใครจะเอาชนะได้และพร้อมที่จะเข้าทำลายกำลังข้าศึกให้พินาศย่อยยับ ซึ่งความเชื่อมันในตัวเองดังกล่าว ก่อให้เกิดความกระตือรือล้นที่จะปฏิบัติงาน”

ขวัญและกำลังใจในการต่อสู้เช่นนี้ ดำรงอยู่ตลอดเวลาในการพัฒนากองทัพเวียดนามจากชัยชนะอันยิ่งใหญ่ต่อจักรวรรดินิยมฝรั่งเศสที่เดียน เบียน ฟู เมื่อ 7 พฤษภาคม 1954 ไปจนถึงการรุกใหญ่วันตรุษ ระหว่าง 29 มกราคม - 31 มีนาคม 1968 และเรื่อยไปจนถึงการพัฒนาหน่วยทหารราบ และยานเกราะที่ทันสมัย ข้อคิดเห็นของ นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ เกี่ยวกับการพัฒนา “หน่วยกำลังทางยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่หลายๆ หน่วย” ไม่ควรยอมกับกันแต่เพียงเป็นข้อวิเคราะห์ของหัวหน้าทีมฟุตบอลที่เพิ่มได้ชัยชนะในการแข่งขันไปแล้วเท่านั้น ในต้นเดือนธันวาคม ปี 1969 นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ ได้ให้สัมภาษณ์นักหนังสือพิมพ์ชาวฮังการีคนหนึ่งว่า “การทำเวียดนามให้เป็นของชาวเวียดนามจะกลายเป็นโศกนาฎกรรม ไม่เพียงแต่ทหารหุ่นเวียดนามใต้เท่านั้น แต่สำหรับทหารอเมริกันด้วย สหรัฐ ฯ และทหารหุ่น ซึ่งกำลังถูกโจมตีอย่างรุนแรงจะถูกโจมตีอย่างรุนแรงเพิ่มขึ้นไปอีก

ในเดือนเดียวกันนี้ นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ ได้อธิบายว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ในบทความที่จัดพิมพ์ในหนังสือพิมพ์นานดานของพรรค ในโอกาสการเฉลิมฉลองครบรอบ 25 ปี ของกองทัพเวียดนาม ในบทความเหล่านี้ นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ ได้อธิบายถึงการพัฒนาหลักนิยมทางทหารของเขาตั้งแต่ปี 1945 และได้วางพื้นฐานสำหรับการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ที่จะไปนำสู่การการรุกใหญ่ในฤดูใบไม้ผลิปี 1975 ส่วนหนึ่งของการวิเคราะห์ครั้งนี้ นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ กล่าวว่า “มีปัญหาหลักเกี่ยวกับความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ซึ่งหากหน่วยของเราทุกหน่วยมีคุณภาพสูงและขีดความสามารถในการต่อสู้กับข้าศึกอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว เราจะสามารถเพิ่มพูนกำลังรบให้กับกองทัพที่มีขีดจำกัดของเราได้ และขณะเดียวกันจะสามารถลดปัญหาในเรื่องการจัดตั้ง และความเป็นผู้นำลงได้ นอกจากนี้จะสามารถปรับปรุงกำลัง และเผชิญความต้องการทางด้านการส่งกำลังบำรุงของกองทัพ ตลอดจนความสามารถที่จะใช้กำลังต่าง ๆ ได้ในลักษณะประหยัด”

นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ กล่าวต่อไปว่า “เราต้องสนใจการพัฒนารูปแบบของสงครามเพื่อให้สามารถเผชิญกับความต้องการในแต่ละห้วงเวลาได้ เมื่อถึงคราวจำเป็นเราต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสงครามที่ล้าสมัยให้ทันเวลา โดยยึดถือรูปแบบใหม่ ๆ ซึ่งมีความเหมาะสมกว่าเดิม ......... เราไม่ควรนำประสบการณ์เก่า ๆ มาใช้โดยมิได้พิจารณาใคร่ครวญให้รอบคอบหรือนำรูปแบบการสงครามที่หมดสมัยแล้วมาใช้อีก” ก่อนประสบชัยชนะในสนามรบเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 1975 เป็นเวลาถึง 6 ปี นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ ได้วาดภาพสภาวการณ์อันเหมาะสมที่จะนำไปสู่ชัยชนะว่า เป็นการใช้หน่วยเคลื่อนที่เร็ว ที่มี “คุณภาพสูง” อย่างเฉลียวฉลาด

เราได้ชี้ให้เห็นสาระสำคัญ 2 ประการ ของการวิเคราะห์ของ นายพล โว เหงียน เกี๊ยบ เพื่อเน้นว่าความมุ่งหมายในการศึกษาชัยชนะของเวียดนามนั้น ไม่ควรกระทำเพื่อจะได้ลอกเลียนแบบของยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี หรือหลักนิยมของเขา แต่ควรกระทำเพื่อนำศิลปศาสตร์การปฏิวัติ และการทหารให้ลักษณะพลิกแพลงมาใช้ให้เหมาะสมกับสภาวะทางภูมิศาสตร์ และประวัติศาสตร์ของแต่ละพื้นที่ต่อไป


**************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น