14 ธันวาคม 2552

บทที่ 4



ชีวประวัติ
พลเอก วัน เทียน ดุง

-------------



Van Tien Dung


..........พล.อ.วัน เทียน ดุง เกิดเมื่อปี พ.ศ.2468 ที่หมู่บ้าน ฮอยดัก จังหวัด ฮาดง ใกล้กับกรุงฮานอย ในครอบครัวชาวนา เป็นคนเชื้อชาติเวียดนามโดยกำเนิด ไม่ปรากฏว่ามีบุตร ภริยา เป็นคนที่มีบุคลิกลักษณะและอุปนิสัย ทะเยอทะยาน ชอบปรากฏตัวในที่สาธารณะ ชอบเขียนบทความหนังสือพิมพ์ เป็นบุคคลที่มีความสามารถเป็นผู้ที่มีความสนใจและมีแนวความคิดเกี่ยวกับการปฏิวัติตั้งแต่อายุยังน้อยได้เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามตั้งแต่ปี พ.ศ.2480 และเป็นสมาชิกของคณะกรรมการพรรคในปี 2481 เขาถูกฝรั่งเศสจับในฐานะเป็นพวกต่อต้านในปี พ.ศ.2482 และถูกส่งไป่อยู่ในค่ายกักกันใช้แรงงานเป็นระยะเวลา 2 ปี เขาได้หลบหนีรอดออกมาได้ในปี 2486 และได้เข้าช่วยเหลือการจัดตั้งองค์การพรรคในจังหวัดต่าง ๆ ของฮาดง และแมคนินห์ ในปี 2487 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการของคณะกรรมการพรรคเวียดนามเหนือ และได้ถูกฝรั่งเศสจับกุมอีกครั้งในปี พ.ศ.2487 ได้รับโทษจองจำตลอดชีวิต แต่ก็หลบหนีออกมาได้อีกครั้งเขาได้ดำเนินการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธต่อต้านฝรั่งเศส และก็ได้เข้ารับตำแหน่ง ๆ ทั้งทางทหารและทางการเมือง ในการประชุมสมัชชาพรรคสมัยที่สอง ในปี พ.ศ.2494 ได้ถูกเลือกให้รับตำแหน่งสมาชิกผู้หนึ่งของคณะกรรมการกลางพรรคลาวกับเวียดนาม (พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม) ปัจจุบันเป็นสมาชิกคณะกรรมการกลางการเมือง ประธานคณะกรรมการกลางฝ่ายทหาร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นอกจากตำแหน่งทางการเมืองในพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามอีกหลายตำแหน่ง

บทบาทในการปฏิบัติเพื่อการปลดปล่อยจากฝรั่งเศส เขาได้เข้าร่วมในพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2480 และในปี พ.ศ.2481 ก็ได้รับตำแหน่งเป็นผู้นำสันนิบาตคนงานในฮานอย ตลอดเวลาที่เกิดสงครามโลกครั้งที่สอง วัน เทียน ดุง ยังคงอยู่ในฮานอย มิได้หลบหนีไปภาคใต้ของจีน เช่นผู้นำคนอื่น ๆ เขาจึงถูกจับกุมสองครั้งในข้อหาทำการต่อต้านรัฐบาล และได้หลบหนีออกมาได้ทั้งสองครั้ง ในปี พ.ศ.2487 เมื่อเขาหลบหนีจากเรือนจำก็ได้เข้าร่วมกับผู้นำคอมมิวนิสต์เวียดนามในจีน และสมัครเข้าร่วมในกองกำลังเวียดมินห์ ในปี พ.ศ.2489 เกิดสงครามกับฝรั่งเศส โว เหงียน เกี๊ยบ จึงแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการเขต 3 (ฮานอย – ลุ่มแม่น้ำแดง) ต่อมาเขาได้เลื่อนยศขึ้นเป็น พลจัตา และเลื่อนขึ้นเป็น พลตรี ในปี 2491 พร้อมกับมีหน้าที่รับผิดชอบสำนักงานคอมมิสซาร์ทางการเมืองในเขตภาคทหารที่ 3 ของเวียดมินห์ปี พ.ศ.2494 ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองพล320 ซึ่งเป็นกองพลที่มีความเข้มแข็งที่สุดของกองกำลังเวียดมินห์ ขณะเดียวกันก็ได้รับเลือกเป็นสมาชิกคณะกรรมการพรรคลาวดง ปี พ.ศ.2496 ได้เลื่อนยศเป็น พลโท และดำรงตำแหน่ง เสนาธิการทหาร ปี พ.ศ.2497 รับผิดชอบด้านการส่งกำลังบำรุงในการรบกันกับฝรั่งเศสที่ เตียน เบียน ฟู และเดินทางไปประชุมที่ เจนีวา เกี่ยวกับปัญหาอินโดจีน เพื่อหาทางทำข้อตกลงหยุดยิง

บทบาทหลังสงครามกับฝรั่งเศส (หลังปี พ.ศ.2497-2508) หลังจากฝรั่งเศสถอนตัวออกจากเวียดนามแล้ว ได้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามเหนือในคณะกรรมมาธิการควบคุมการหยุดยิงระหว่างประเทศที่ไซ่งอน ปี พ.ศ.2500 เป็นผู้เสนอให้เวียดนามขยายการทำสงครามกองโจร ปี พ.ศ.2502 ได้รับคัดเลือกให้เดินทางไปเวียดนามอย่างลับ ๆ เพื่อจัดตั้งขบวนการต่อต้านรัฐบาลเวียดนามใต้ของ โง ดิน เดียม ปี พ.ศ.2503 ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสำรองในคณะ โปลิตปุโร และสมาชิกสภาป้องกันประเทศ

ระหว่างสงครามเวียดนาม (ปี พ.ศ.2508 - เม.ย.2518) ในปี พ.ศ.2508 เป็นผู้รับผิดชอบการปฏิบัติการทางทหารในเวียดนามใต้ และในปี พ.ศ.2513 ได้รับการเลื่อนยศเป็น พลเอก และได้เป็นรองเลขานุการคณะกรรมการกลางทหารในปีต่อมา ปี พ.ศ.2515 ได้รับเลือกเป็นสมาชิกถาวรในคณะ โปลิตปุโร นับเป็นสมาชิกโปลิตตปุโร ที่มีอายุน้อยที่สุด ปี พ.ศ.2517 ได้เลื่อนยศเป็น พล.อ.พิเศษ ซึ่งเป็นยศเทียบเท่า พล.อ.โว เหงียน เกี๊ยบ ต้นปี พ.ศ.2518 รับผิดชอบแผนการรุกใหญ่ในเวียดนามใต้ จนสามารถยึดครองเวียดนามใต้ได้ใน เม.ย.2518



***********************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น